วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

First Aston Martin on All-New Architecture Will Be DB9 Replacement

First Aston Martin on All-New Architecture Will Be DB9 Replacement

2015 Aston Martin DB9 Carbon Edition
Aston Martin is busy at work on its next-generation sports-car line, and the first model to market will be the successor to the current DB9 (pictured above).
According to a report from the U.K.’s Autocar magazine, work on the next-gen Aston GT “is well under way” and the car could be unveiled as soon as late 2016 and go on sale by early 2017. The car will ride on an all-new aluminum-intensive architecture and is likely to be offer Mercedes-Benz/AMG V-8 engines as a result of a new partnership finalized late last year.
The DB9 successor will be the first of many Astons to use the flexible new platform and Mercedes-Benz/AMG-based powertrains, although unlike the current crop of AMs, the next-gen lineup will be markedly more distinct and more in line with Ferrari’s stable of exotics, says Autocar. The report also outlines some of the technology that could be shared between Mercedes and Aston Martin, including braking systems, a stereoscopic camera setup for advanced traffic functions, hybrid technology, and more.
The report also says that the huge investment Aston is pouring into its future products is earmarked for sports cars, including successors to the Vantage and Vanquish, but an Aston Martin SUV is not in the mix at this point and the future of the Rapide is hazy.

Benz NK เปิดตัว Mercedes-Benz SLS AMG Black Series, A45 AMG และ CLA45 AMG ต้อนรับโชว์รูม ยิ่งใหญ่แห่งใหม่ กาญจนาภิเษก

Benz NK เปิดตัว Mercedes-Benz SLS AMG Black Series, A45 AMG และ CLA45 AMG ต้อนรับโชว์รูม ยิ่งใหญ่แห่งใหม่ กาญจนาภิเษก

Honda-Brio-Prototype-Large
วันนี้ 17 กพ. 2014 Benz NK ฉลองเปิดอาณาจักรโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่ บนถนนกาญจนาภิเษก บนพื้นที่กว่า 5 ไร่
ภายในโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ แบ่งเป็น 5 โซน ประกอบด้วย Interactive Showroom, Used Car, Service Center, Auto Avenue, Complete Car Zone ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท
Benz-NK-Showroom-SLS-A45_61
และไฮไลท์สำคัญในงานนนี้ คือ เปิดรถ 3 โมเดล ได้แก่
SLS AMG Black Series ตัวพิเศษ Limited Edition มากับเครื่องยนต์ V8 6.3 ลิตร กำลัง 631 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที และ มีความเร็วปลายที่ 315 กม./ชม.
กับ
Benz-NK-Showroom-SLS-A45_54
A45 AMG และ CLA45 AMG ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ มีกำลังสูงถึง 360 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 4.6 วินาที และความเร็วปลายที่ 250 กม./ชม.
Benz-NK-Showroom-SLS-A45_57
โดยลูกค้าที่ซื้อรถในช่วงนี้ รับ Warranty 5 ปี และ บริการช่วยเหลือ 5 ปี ทันที
Honda-Brio-Prototype-Large

Ducati เปิดตัว Multistrada 1200S Touring D-Air Bigbike ที่มีถุงลมนิรภัยไร้สายทำงานร่วมกับ Jacket Dainese

Ducati ได้ร่วมมือกับ Dainese คิดค้น เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบใหม่ โดยที่รถ Bigbike คู่ใจของคุณจะทำงานร่วมกับเสื้อแจ๊คเก็ตอันเป็นที่รัก ช่วยปกป้องร่างกายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
Ducati Multistrada 1200S Touring D-Air คันนี้ คือ รถรุ่นพิเศษของ Ducati ที่ได้ผลิตขึ้นมา เพื่อจำหน่ายในตลาดยุโรป ซึ่งรถคันนี้จะทำงานร่วมกับเสื้อแจ๊คเก็ต ในการใช้ถุงลมนิรภัย เพื่อปกป้องอันตรายที่จะเกิดแก่ตัวคุณ และผู้โดยสารที่ซ้อนท้าย (ระบบจะเชื่อมโยงได้กับเสื้อแจ๊คเก็ต 2 ชุด)
ducati-d-air-motorcycle-airbag-jacket-2_resize
Ducati Multistrada 1200S Touring D-Air ได้ติดตั้งเซ็นเซอร์ ไว้ที่โช้คอัพคู่หน้า และใต้เบาะ เพื่อรองรับกับแรงกระแทก ที่จะเกิดขึ้นและสั่งการให้ชุด Airbag ทำงาน ซึ่งระบบควบคุมของ D-Air จะส่งสัญญาณไปยังชุดแจ๊คเก็ต ให้ถุงลมพองตัวออก ทั้งด้านหน้า และหลัง ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เกิดการชนขึ้น ไม่ว่าจะโดนจากด้านหน้า, หลัง หรือด้านข้าง
เซ็นเซอร์นี้ ฉลาดพอที่จะไม่ทำงาน หากรถล้มขณะที่จอด หรือ เพียงแค่รถสูญเสียการควบคุมเพียงเล็กน้อย
ducati-d-air-motorcycle-airbag-jacket-1_resize
เสื้อแจ๊คเก็ตนี้ จะมีน้ำหนักมากกว่าเสื้อปกติ 1.5 กก. จากระบบ Airbag ที่ฝังอยู่ในชุด ซึ่งจะต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ใช้เวลา ราว 5 ชม. จึงจะสามารถใช้งานสุดได้ 30 ชม. และจะต้องนำชุดแจ๊คเก็ตนี้ไปเข้าศูนย์บริการตรวจเช็ค เมื่อครบ 2 ปี
เป็นที่น่าเสียดายที่ Ducati Multistrada 1200S Touring D-Air พร้อมชุดเจ๊คเก็ต Dainese นี้ จำหน่ายในตลาดยุโรปเท่านั้น แต่นี่ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งก้าอขงความปลอดภัยให้แก่ ผู้ที่รักในการขับขี่ Bigbike ในอนาคต


พาชมบรรยากาศงาน Super Car & Import Car Show 2014

พาชมบรรยากาศงาน Super Car & Import Car Show 2014


Honda-Brio-Prototype-Large
งาน Supercar & Import Car Show 2014 นี้ ถือเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งถูกจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 7-8 วันที่ 10-18 พฤษภาคม 2014 นี้
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_02
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_07
สำหรับภายในงานนั้นได้ มีบูทรถ Supercar หลากหลายค่ายเข้าร่วม อาทิ Lamborghini, Ferrari, Aston Martin, Mclaren, Land Rover, Jaguar
ซึ่งรถที่ถือเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นภายในงานได้แก่
Mclaren 650S Lamborghini Aventador LP720-4, Ferrari F12, Aston Martin V12 Vantage S Q
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_092014-Supercar-And-ImportCar-Show_11
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_30
นอกจากนั้นยังได้รับการตอบรับจากบูทรถนำเข้าชั้นนำอีกมากมาย ได้แก่
BRG, Benz NK, ETON, Signature Cars, J Auto Import, AG Cars เป็นต้น
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_27

มาทำความรู้จักกับ Mclaren 650S คันแรกในเมืองไทย

มาทำความรู้จักกับ Mclaren 650S คันแรกในเมืองไทย


Honda-Brio-Prototype-Large
Mclaren 650S ถือเป็นรถสปอร์ต Supercar คันล่าสุดจากค่าย Mclaren จากเกาะอังกฤษ ซึ่งคันที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้เป็นรถจากผู้นำเข้าอย่างเป้นทางการ Niche Car
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_25
Mclaren 650S ได้พัฒนามาจาก รุ่น MP4-12C และ P1 ร่วมกับประสบการณ์ในการทำรถแข่งมากว่า 50 ปี สำหรับตัวเลข 650 แน่นอนว่าหมายถึงตัวเลขพละกำลังแรงม้า ขณะที่ S = Sport
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_21
การดีไซน์ไฟหน้าได้แรงบรรดาลใจมาจาก P1 ซึ่งเป็นไปแบบ LED นอกจากนั้นการดีไซน์กันชนหน้าแบบใหม่ เมื่อเทียบกับรุ่น 12C ทำให้ 650S มีแรงกดอากาศเพิ่มขึ้น 24% เมื่อขับที่ความเร็วกว่า 240 กม./ชม.
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_18
650S ใช้เครื่องยนต์รหัส M838T บล๊อก V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร สร้างกำลังได้ 650 แรงม้า และ แรงบิด 678 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ SSG แบบ 7 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3 วินาทีเท่านั้น กับ ความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม.
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_17
สำหรับระบบช่วงล่าง ProActive Chassis Control (PCC) Suspension สามารถปรับโหมดได้ถึง 3 ระดับ Normal/Sport/Track ซึ่งแต่ละโหมดจะส่งกำลังและช่วงล่าง แตกต่างกันไป
2014-Supercar-And-ImportCar-Show_22
สนนราคา Mclaren 650S Coupe อยู่ที่ 26 ล้านบาท และ 27 ล้านบาท สำหรับ Spider

Yamaha YZF-R25 เปิดตัวแล้วที่ อินโดนีเซีย

Yamaha YZF-R25 เปิดตัวแล้วที่ อินโดนีเซีย


Honda-Brio-Prototype-Largeหลังจากงาน Bangkok International Motor Show 2014 เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางค่าย Yamaha ได้เปิดตัว Rev Station พร้อมกับรถรุ่นใหม่แบบ World Premiere กันไปเรียบร้อยในไทย นั่นก็คือ Tricity แต่แล้ววันนี้ เราได้นำภาคต่อของ Rev Station ที่เป็นรถในโปรเจ็ค คันต่อไปมาให้ชมกัน ซึ่งนั่นก็คือ รถ Sport 250cc YZF-R25 ที่หลายคนต่างตั้งหน้าตั้งตาคอยการมา
แต่ทว่า ที่เรานำข้อมูลมาให้ชมกันนี้ ถูกเปิดตัวที่อินโดนีเซีย ไม่ใช่ไทย
Yamaha-YZF-R25-front-three-quarters-low-res-official-image_resize
Yamaha YZF-R25 รถสปอร์ต ในพิกัด 250cc คันแรกจากค่าย Yamaha ได้ถือกำเนิดเปิดตัวแล้ว ที่อินโดนีเซีย โดยมีแผน จะวางจำหน่ายในตลาด Asean และแน่นอน พลาดไม่ได้ กับตลาดบ้านเรา ซึ่ง ยังไม่มีกำหนด ณ ตอนนี้
Yamaha-YZF-R25-side-low-res-official-image_resize
YZF-R25 ได้รับการดีไซน์ถ่ายทอดรูปแบบมาจากตังแรงอย่าง YZF-M1 ไฟหน้ารูปทรงสปอร์ตแบบโคมคู่ ไฟท้ายแบบ LED มาพร้อมกับสี 3 สี แดง น้ำเงิน ดำ
R25 นั้นมีน้ำหนักตัวเพียง 166 กก. และมีความสูงเบาะเพียง 780mm กับความยาวฐานล้อ 1,380mm และมีความจุถังน้ำมัน 14.3 ลิตร
Yamaha-YZF-R25-diablo-red-color_resize
เครื่องยนต์เป็นแบบ 2 สูบ DOHC 250cc สร้างแรงม้าได้ 36 PS@ 12,000rpm และแรงบิด 22.1 Nm@ 10,000rpm ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 speed คลัชมือ
Yamaha-YZF-R25-predator-black-color_resize
ด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ telescopic ขนาดแกน 41 mm และโช้คอัพหลังเดี่ยวแบบ Monocross
หยุดรถด้วยระบบเบรกแบบจานดิสก์เดี่ยวขนาด 298mm แบบ 2 ลูกสูบ ในจานหน้า และจานหลังเดี่ยวขนาด 220mm 1 ลูกสูบ สำหรับ จานเบรกหลัง
ลองมาดูคลิปแนะนำ Yamaha YZF-R25 ใหม่กัน สำหรับตลาดเมืองไทย คงต้องรอกำหนดการเปิดตัวจาก Yamaha Motors ประเทศไทย อัพเดทกันในอนาคต

ทำความรู้จักว่าที่ Evolution XI Mitsubishi XR-PHEV Evolution Vision GT เผยโฉมแล้วในเกม GT6

ทำความรู้จักว่าที่ Evolution XI Mitsubishi XR-PHEV Evolution Vision GT เผยโฉมแล้วในเกม GT6


Honda-Brio-Prototype-Largeเหล่าผู้เล่นเกม GT6 ต่างรู้ดีว่า ทางค่ายเกม จะทยอยปล่อยรถ Vision GT ซึ่งเป็นรถที่ดีไซน์ พิเศษสำหรับเกม GT6 โดยเฉพาะ และในเวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุด 1.08 ได้มีการเผยโฉมรถ VGT อีกหนึ่งคัน นั่นก็คือ Mitsubishi XR-PHEV Evolution Vision Gran Turismo
XR-PHEV-Evolution_3_resize
Mitsubishi Motors ได้พัฒนารถยนต์ Concept ซึ่งเป็นรถที่ต่อยอดจากประวัติศาสตร์ในการแข่ง Rally Dakar และ WRC อันสวยหรูของค่าย จนได้รถยนต์เวอร์ชั่นพิเศษ Mitsubishi XR-PHEV Concept ซึ่งเป็นรถยนต์สไตล์ Crossover ที่งาน Tokyo Motor Show 2013
XR-PHEV-Evolution_2_resize
และข่าวลือสำหรับตัวตายตัวแทนของ Lancer Evolution ก็ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง ถึงรูปโฉมว่าจะออกมาเป็นรถในแนวใด ไม่ว่าจะเป็น Coupe หรือ Crossover และล่าสุด เกม GT6 ได้เผยให้เราทราบถึงรูปลักษณ์ ว่าที่รถยนต์ตัวแรง จากตระกูล Evolution คันต่อไป ซึ่งก็คือ Mitsubishi XR-PHEV Evolution Vision Gran Turismo
XR-PHEV-Evolution_1_resize
Mitsubishi XR-PHEV Evolution Vision GT มีมิติ กว้างxยาวxสูง = 2,263 x 3,700 x 1,351 มม. มีน้ำหนัก 1,350 กก. และนี่ เป็นการยืนยันได้ว่า ว่าที่ Evolution จะไม่ใช่รถยกสูงแบบ Crossover แต่จะมากับรูปทรงในสไตล์รถ Hot Hatch 3 ประตุนั่นเอง หรือว่าง่ายๆ จับ XR-PHEV มาโหลดเตี้ย ตัดเหลือ 3 ประตู และเสริมโป่งล้อให้ดุดัน พร้อม สปอยเลอร์หลังแนว GT และสวมล้ออลูมีเนียมอัลลอย 20″
Mitsubishi-Concept-XR-PHEV-Evolution-Vision-Gran-Turismo-4-730x410_resize
ด้านขุมพลัง XR-PHEV Evolution VGT ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 3,000cc มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid EV มอบกำลังรวม 502 แรงม้า (hp) @7,500rpm และน่าตกใจกับ แรงบิดมหึมาที่มาที่รอบต่ำทันทีที่ออกตัว 748.6 ปอนด์-ฟุต @1,000rpm ถ่ายกำลังด้วยระบบเกียร์ DCT (Dual-Clutch Transmission) 8 speed ลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตามแบบฉบับตระกูล Evolution มาพร้อมระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพ S-AWC

Cavallino เปิดตัว Ferrari California T ม้าลำพองที่หวนกลับใช้ยนต์ TURBO

Cavallino เปิดตัว Ferrari California T ม้าลำพองที่หวนกลับใช้ยนต์ TURBO


Honda-Brio-Prototype-Large
วันนี้ 18 มิย. 2014 Cavallino Motors ประเทศไทย ผู้จำหน่ายรถ Ferrari อย่างเป็นทางการ ได้เปิดตัว Ferrari California T อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศ ภายหลังเปิดตัวที่งาน Geneva Motor Show 2014 เมื่อช่วง มีค. ที่ผ่านมา สะท้อนความคล่องตัว และสง่างาม ตามแบบฉบับ California รุ่นแรกตั้งแต่ปี 1950
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch4
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch1
Ferrari California T มากับ นิยาม 3 คำ Elegance, Sporty, Technology หรูหรา, สปอร์ต, เทคโนโลยี
California T ถือเป็นรถยนต์ Ferrari หลังคาแข็งพับได้ในเวลา 14 วินาที มาพร้อมที่นั่งแบบ 2+2 ช่วยให้เป็นรถในรูปแบบ Concept Every Day Use ไม่ว่าจะเป็นการขับใช้งานในตัวเมืองแบบชีวิตประจำวัน หรือจะขับท่องเที่ยว ก็ทำได้อย่างเหมาะสม
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch22
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch21
ด้านขุมพลัง California T นี้ ถือเป็นม้าลำพอง ตัวที่ปฏิวัติเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยการหวนกลับมาใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ หลังห่างหายไปนาน ตั้งแต่ รุ่น GTO ในปี 1984 และ F40 ในปี 1987 และปัจจุบันรถสูตรหนึ่ง F1 ก็ ใช้หัวใจขับเคลื่อนเทอร์โบชาร์จ เช่นเดียวกัน
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch59
ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ ความจุ 3,855 ลิตร ให้กำลัง 560 แรงม้า ที่ 7,500rpm และแรงบิด 755Nm ที่ 4,750rpm ในเกียร์ที่ 7 ที่ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และ Top Speed 316 กม./ชม.
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch52
แม้จะแรงขึ้น เร็วขึ้น แต่กลับใช้ทรัพยากรอย่าคุ้มค่า เพราะประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 15% (10.5 ลิตร/100 กม.) และลดการปล่อยก๊าซ CO2 อีก 20%
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch73
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch74
สำหรับเทคโนโลยีของ California T นั้นนอกจากขุมพลังที่ถ่ายทอดมาจาก F1 แล้ว ยังมีระบบ F-1 Trac (ระบบ Traction Control) จากเทคโนโลยี F1 เช่นเดียวกัน ระบบ ESP Premium 8.0 และระบบคาร์บอนเซรามิก CCM3 กับดิสก์เบรกใหม่ช่วยให้ระยะเบรกสั้นลง จาก 100-0 กม./ชม. เพียง 34 ม. เท่านั้น
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch32
นอกจากนั้นยังเพิ่มความเร้าใจจาก ประสิทธิภาพการตอบสนองจากกระปุกพวงมาลัยใหม่ และระบบกันสะเทือนใหม่ จากโช้คอัพแม่เหล็กไฟฟ้า Magaride ที่ตอบสนองเร็วกว่าเดิม 50%
Ferrari California T มีราคาอยู่ที่ 23,319,000 บาท
ชมภาพเพิ่มคลิ๊ก
2014-Ferrari-California-T-TH-Launch32

ลอง chevlolet captiva โฉมปี 2014 ปรับหน้าตา เพิ่มของเล่น เด่นเกียร์ใหม่

ลอง เชฟโรเลต แคปติว่า โฉมปี 2014 ปรับหน้าตา เพิ่มของเล่น เด่นเกียร์ใหม่


เชฟโรเลต ได้แนะนำเชฟโรเลต แคปติว่าในตลาดไทยและอาเซียนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และก็น่าจะเข้าถึงช่วงท้าย ๆ ของการทำตลาด ซึ่งก่อนจะปิดตลาดอย่างเป็นทางการ ก็ได้ทำการปรับโฉมรุ่นปี 2014 ออกมาอีกครั้งหนึ่ง
Honda-Brio-Prototype-Largeแนวทางในการปรับตัวในโมเดลล่าสุดนั้น ประกอบไปด้วยการปรับรูปโฉมที่ด้านนอก การเพิ่มออพชั่นภายในตัวรถ ขณะเดียวกันได้ส่งเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่เข้ามาในเครื่องยนต์และการเซพอัพรถแบบเดิม โดยรุ่นแอลทีแซด เครื่องยนต์ดีเซลที่ได้ทดสอบนั้น มาพร้อมกับสนนราคา 1.719 ล้านบาท
แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ทำยอดจำหน่ายได้พอสมควรในช่วงที่ผ่านมา และมีจุดเด่นที่สุดในด้านการเป็นรถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่งแท้ ๆ ที่ไม่มีคู่แข่งโดยตรงในประเทศไทย แต่จากการที่ค่ายรถหลายรายหันมาทำตลาดรถเอสยูวีอย่างจริงจังก็ย่อมส่งผลกระทบมากพอสมควร
ขับดูแล้วโดยสรุปรวมต้องบอกว่าเกียร์รุ่นใหม่นั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำงานได้อย่างคล่องตัวและฉลาดกว่ารุ่นเดิม มีของเล่นเพิ่มมากขึ้น บนเครื่องยนต์รุ่นเดิมที่ให้การตอบสนองแบบไม่จี๊ดจ๊าดมากนัก แตกต่างจากเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เน้นด้านสมรรถนะมากเป็นพิเศษ
ทำให้ต้องพิจารณามากเป็นพิเศษว่าแคปติว่ารุ่นปรับโฉมใหม่นี้จะดีพอที่จะแข่งขันต่อไปก่อนที่โมเดลใหม่จะมาหรือไม่!!!
IMG_0465
ภายนอกปรับไฟหน้า-หลัง เน้นโฉบเฉี่ยว เสริมกาบบันไดข้าง
การเปลี่ยนแปลงภายนอกของรุ่นปรับโฉมมีอยู่ไม่กี่ตำแหน่ง ประกอบไปด้วยโคมไฟหน้าแบบใหม่ที่ดูเพรียวบางมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ทำให้ตัวถังด้านหน้าดูมีอารมณ์สปอร์ตมากกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย
ไฟท้ายได้รับการปรับเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด โคมไฟเบรกขนาดใหญ่แบบ 2 ชั้น ที่ซ่อนไฟเลี้ยวและไฟถอยเอาไว้อย่างแนบเนียน ส่องสว่างอย่างชัดเจนแม้แต่ในเวลากลางวันก็ตาม
จุดสุดท้ายที่ได้รับการปรับแต่งที่ภายนอกก็คือการติดตั้งกาบบันไดข้างหน้าตาสวยงามมาให้ในรถรุ่นนี้ ซึ่งโดยหลักก็คงเพื่อความสวย’ามเป็นหลัก เพราะตัวรถเองไม่ได้สูงใหญ่ขนาดต้องใช้กาบบันไดอยู่แล้ว
โดยรวม ๆ ต้องบอกว่าเป็นความพยายามของเชฟโรเลตอีกครั้งในการทำให้รูปลักษณ์ของแคปติว่ามีการปรับเปลี่ยนและดูสดใสขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นความพยายามที่ไม่สูญเปล่า แต่ก็ไม่ได้แตกต่างโดดเด่นอะไรมากนัก
IMG_0472
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ผสานเกียร์ใหม่ ลงตัวขึ้น
เชฟโรเลตไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์โดยสิ้นเชิง แต่หันไปเน้นการพัฒนาเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จีเอฟ2 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ดูแล้วจะฉลาดและทำงานลงตัวกับเครื่องยนต์รุ่นเดิมมากขึ้น
ในรุ่นที่นำได้ทดสอบนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูง ที่ให้กำลัง 163 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่มาที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที
โดยรวม ๆ แล้วภาพรวมการขับขี่ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นเดิมเท่าไรนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกียร์รุ่นใหม่นั้นฉลาดมากขึ้น มีจังหวะในการเปลี่ยนที่ดีมากขึ้น ทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างคล่องตัว
แม้จะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของอัตราเร่งแบบปรู๊ดปร๊าดทันใจ แต่ในการใช้งานจริงต้องบอกว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ก็ยังเพียงพอในการขับขี่บนท้องถนน การทำความเร็วที่ระดับ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
การตอบสนองของคันเร่งต่อการกดเพื่อทำความเร็วเร่งแซงนั้นอาจจะไม่ทันใจนัก แต่ทดแทนได้ด้วยการชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ให้สอดคล้องกับจังหวะของการขับขี่ ขณะที่การเก็บเสียงของรถยังทำได้ค่อนข้างดี ทั้งเสียงจากลมปะทะด้านหน้าและเสียงจากช่วงล่างที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญมากนัก
IMG_0491
เข้า-ออกสบาย ไม่ต้องใช้กุญแจ ที่เหลือแทบไม่ต่างจากเดิม
สิ่งที่เป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาอย่างเห็นได้ชัดก็คือระบบกุญแจแบบใหม่ที่ช่วยให้เข้า-ออกห้องโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องหยิบกุญแจขึ้นมากดปุ่ม แถมยังออกแบบรีโมตใหม่มาอย่างสวยงามลงตัว
ปรับเปลี่ยนรูปแบบและพื้นผิวของวัสดุทั่วห้องโดยสารให้ดูหรูหรามากขึ้น ระบบปรับอากาศอัลตร้าโซนที่สามารถแบ่งการปรับอากาศของตอนหน้าออกจากกันได้ทางซ้าย-ขวา
สวิชท์ควบคุมพวงมาลัยเปลี่ยนเป็นแบบเรืองแสง อุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบทั้งการควบคุมเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็ว ขาดไปก็แค่แพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัยที่ถ้าติดตั้งมาให้อีกอย่างจะสมบูรณ์
ในการเร่งแซงและขับขี่นั้น การที่ก้านไฟเลี้ยวติดตั้งอยู่ที่ด้านซ้าย ทำให้เมื่อต้องเปลี่ยนเกียร์เพื่อส่งกำลัง ไม่สามารถเปิดสัญญาณไฟได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดเล็กน้อยในการใช้งาน
IMG_0485
ยังมีดีที่ 7 ที่นั่ง ขับขี่เหมือนรุ่นเดิม
แม้จะเป็นรถที่ได้รับการพัฒนามาอีกขั้นด้วยการเพิ่มเติมอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามามากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่นั้นส่งผลที่ดีอย่างเห็นได้ชัดเจนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นกับรถคันนี้
ความรู้สึกในการขับขี่นั้นไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมา เอาเป็นว่าถ้าคุณคิดจะเป็นเจ้าของแคปติว่าอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องดีเพราะว่าคุณจะได้รถที่มีของเล่นและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นจากรุ่นเดิม
จริงอยู่ที่การขับขี่รถคันนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่เลวร้าย โดยเฉพาะเมื่อมองถึงการเป็นรถยนต์ครอบครัวที่แท้จริง การตอบสนองในเรื่องของเครื่องยนต์ถือว่าเพียงพอที่จะใช้งานรถคันนี้ทั้งในชีวิตประจำวันและวันหยุด
IMG_0488
แต่หากคุณเป็นคนขับรถคนเดียวที่ต้องการรถยนต์ที่สมรรถนะโฉบเฉี่ยว ไม่เน้นการใช้งานเบาะที่นั่งแถว 3 อย่างแน่นอน ตัวเลือกในท้องตลาดก็มีให้เลือกอยู่อย่างหลากหลายมากมาย
ทุกครั้งที่ได้ลองรถยนต์รุ่นนี้ ผมมักจะสรุปอยู่เสมอมาตลอดว่า หากคุณต้องการเอสยูวี 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ตอบสนองดีพอสมควร ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ไม่เลวร้าย ใช้งานได้ทั้งวันทำงานและวันหยุด นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง
เลือกรถต้องเลือกตามการใช้งานครับ ถ้าคิดว่าคันนี้ใช่และเหมาะสม ราคาของเอสยูวีเครื่องยนต์ดีเซลคันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่อัดมาจนแทบจะเต็มพิกัด
ซื้อตอนนี้ได้แคมเปญ 6+6 ยืดระยะเวลารับประกันเป็น 6 ปี 1.4 แสนกิโลเมตรด้วยนะ…
IMG_0464
รายละเอียดทางเทคนิค เชฟโรเลต แคปติว่า 2.0 แอลทีแซด โฉมปี 2014
ราคาจำหน่าย1.719 ล้านบาท
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร
กำลังสูงสุด163 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด
IMG_0475
ขอขอบคุณ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถยนต์ทดสอบ
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ชมภาพ เชฟโรเลต แคปติว่า 2.0 แอลทีแซด โฉมปี 2014 เพิ่มเติมได้ ที่นี่
IMG_0489